นายสุรพล สดศรี (อึ่ง) อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ ร่างกายพิการ ที่เกิดจากอุบัติเหตุไฟฟ้าช็อตระหว่างทำงานก่อสร้างเมื่อ 9 ปีก่อน ถูกตัดแขนซ้าย มือขวาใช้การได้ไม่ปกติ หลังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1 ปี กลับมาอยู่บ้านได้ 2 เดือนภรรยาทิ้ง ไม่มีใครดูแลจึงย้ายมาอยู่กับน้องชายที่จังหวัดชัยนาท ด้วยความใจสู้กับชีวิต หางานทำไปเรื่อยๆ แม้ร่างกายพิการแต่สามารถทำงานได้เกือบทุกอย่างเหมือนคนร่างกายปกติทั่วไป ได้มาพบกับนายสมเจตน์ ใจแผ้ว เจ้าของฟาร์มแพะที่ตำบลหางน้ำสาคร รับไว้ทำงานในฟาร์มพร้อมให้เงินเดือนประจำ โดยส่งกำลังใจถึงผู้ที่พิการและไม่พิการขอให้สู้ชีวิตอย่าท้อ

            นายสุรพล สดศรี เดิมเคยทำงานก่อสร้างที่จังหวัดนครสวรรค์ ครั้งนั้นกำลังทำงานขึ้นโครงหลังคา ขณะที่ดึงเหล็กเส้นขึ้น ปลายเหล็กไปแตะกับสายไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้ถูกไฟฟ้าช็อตได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลา 1 ปี ถูกตัดแขนซ้ายระดับใต้ศอก มือขวาใช้การไม่ปกติ กลับมาอยู่บ้านได้ 2 เดือนแฟนก็ทิ้งไป จากนั้นจึงเดินทางมาอยู่กับน้องชายที่จังหวัดชัยนาท ทำงานเล็กๆน้อยๆ ช่วยน้องชายแบกปุ๋ยบ้าง ได้วันละไม่กี่บาทส่งไปให้แม่ใช้บ้าง ต่อมาเขาจ้างมาเลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ช่วงนั้นสุขภาพไม่ค่อยดีจึงหยุดไปบ้าง  และได้มาเจอกับพี่สมเจต เขารับมาอยู่ด้วยให้ทำงานที่ฟาร์มแพะ ภารกิจประจำวันเลี้ยงแพะ เก็บกวาดขี้แพะ เอาน้ำให้แพะ ได้ค่าจ้างเดือนละ 5,000 บาท แม้ว่ารางกายจะพิการแต่สามารถทำงานได้ทุกอย่าง หุงหาข้าวปลากินเอง ต้องสู้ชีวิต หาเลี้ยงตัวเอง ไม่รอให้คนอื่นช่วยอย่างเดียว ต้องพยายามช่วยเหลือตัวเองคิดว่าจะทำอย่างไรให้อยู่ได้พึ่งคนอื่นให้น้อยที่สุด

            ขอให้คนที่ท้อแท้อยู่ขณะนี้ ให้มีกำลังใจสู้ชีวิตต่อไป ผมพิการก็ต้องสู้ชีวิต อย่าท้อแท้ เราต้องช่วยตัวเองก่อน อย่ารอให้คนอื่นมาช่วยเรา สิ่งไหนทำได้เราต้องทำ มีความสุขกับการทำงาน พูดคุยกับแพะที่เราเลี้ยง เล่นกับพวกเขาทุกวัน ชีวิตความสุขมาก